Subscribe:

Ads 468x60px

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สีผมสวยๆ การเติมลูกเล่นให้กับสีผมด้วยหลากเทคนิค



มาทำตัวเองให้สดใสไฉไลทันสมัยเก๋ไก๋กว่าเดิมกันเถอะ! เบื่อหรือยังกับการทำสีผมเดิมๆแบบผมทรงเดิม นอกจากการทำสีผมสีเดียวแล้ว การเพิ่มเทคนิคลูกเล่นสีผมให้กับทรงผมกำลังเป็นที่นิยมอยู่มาก เพราะการทำสีผมไม่ใช่แค่การเลือกสีที่ชอบก็เป็นอันว่าเสร็จ แต่การทำสีผมจริงๆแล้ว คือ”การออกแบบสีผม” ทั้งการเลือกสีและตำแหน่ง เพื่อเสริมบุคลิกของคุณให้ดีขึ้น และยังช่วยให้คุณรู้สึกสดใสขึ้นทั้งในด้านอารมณ์และจิตใจด้วย วันนี้เราจึงได้นำการเติมลูกเล่นให้กับสีผมสวยๆ ด้วยหลากเทคนิคปี 2013 มาฝากค่ะ ที่เป็นการทำสีผมสวยๆตั้งแต่การทำไฮไลท์เพิ่มความมีมิติให้กับเรือนผมที่ไม่จำเป็นต้องดูโอเวอร์เสมอไป แต่ก็สวยเริ่ดสะดุดตาได้ ไปจนถึงการทำสีผมแบบจัดจ้านจี๊ดถึงใจแบบต่างๆ ที่เราได้รวบรวมไอเดียการเติมลูกเล่นให้กับสีผมสวยๆ ด้วยหลากเทคนิคมาไว้ที่นี่แล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปดูกันเลยย

เทคนิคการทำสีผมจริงๆ แล้วมีเป็นร้อยเป็นพันแบบ แต่งวดนี้ขอสรุปเป็น 4 แนวหลักๆ เพื่อให้แบ่งแยกสามารถอธิบายช่างได้ง่ายขึ้น และกำลังฮิตในปี 2013 นี้ ได้แก่ balayage, sectioning, ombre และ dip dyed ค่ะ

การทำไฮไลท์สีผมที่เรียกว่า " Balayage highlight " (บาลายาจ ไฮไลท์) หรือ "Balliage" เป็นเทคนิคการทำสีผมที่ใช้กันมานานและได้รับความนิยมอยู่เสมอ เพราะช่วยให้ดูมีมิติอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยสีอย่างน้อย 2 สี โดยสีหลักจะไม่ต่างจากสีผมธรรมชาติของคนนั้นมากนัก ส่วนสีที่สลับจะต้องเป็นสีสว่างกว่าเล็กน้อย ทำสลับกันไปมาอย่างละเอียด โดยใช้เทคนิคการเพ้นท์ หรือเกี่ยวเส้นผมเป็นแถบบางๆ ทั้งศรีษะ ทำให้เมื่อสยายผมออกมาแล้วจะดูไม่แบนเหมือนการทำสีผมสีเดียว ผมดูหนา และดูนุ่มมากขึ้น นอกจากนี้การเลือกสีที่ยังใกล้เคียงกับธรรมชาติเดิม ทำให้เมื่อโคนผมงอกยาวออกมา จะหารอยตัดของการงอกได้ยากกว่าการทำสีสว่างทั้งศรีษะ


ส่วนการไฮไลท์ผมสำหรับปี 2013 นั้น วนเวียนอยู่กับการทำให้เรือนผมดูอบอุ่น (ซึ่งช่วยทำให้คุณดูเป็นสาวโรแมนติกขึ้นด้วย) ด้วยการเลือกใช้สีโทนร้อนที่ให้ความอบอุ่นมีพลัง อย่างสีทอง สีคาราเมลบลอนด์ สีน้ำตาลช็อกโกแลต รวมไปถึงสีแดงสว่างหรือแดงเข้ม แต่หากอยากเลือกสีเองตามใจไม่ให้เหมือนใคร ก็แค่ยึดหลักเลือกสีที่แตกต่างจากสีผมจริง ๆ ของคุณไป 2-3 เฉด ทำไฮไลท์กระจายไปทั่ว ๆ ศีรษะ ผมไฮไลท์แบบนี้เวลาทำผมแล้วดูสวยมีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยสีแตกต่างที่อยู่แซมกัน สวยอย่าบอกใคร



สีผมแบบ Sectioning เทคนิคการทำไฮไลท์แบบช่อใหญ่ หรือจะแบ่งครึ่งหัวเลยก็ได้ จะทำให้ดูเป็นธรรมชาติ หรือดูชัดเจนขึ้นอยู่กับคู่สีที่เลือก และการจับช่อผมของช่าง ส่วนใหญ่จะใช้เทคนิคนี้เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้ทรงผม และแก้ไขรูปหน้า ถือว่าช่างต้องมีประสบการณ์พอสมควร เพราะต้องมองทรง และสี รวมถึงผลลัพท์ได้อย่างแม่นยำด้วยค่ะ


สีผมแบบ Ombre แปลคำนี้ได้ว่า 'แรเงา' / เป็นการไล่สีในเฉดโทนอบอุ่น อย่างสีบรอนด์ประกายทอง สีคาราเมลบลอนด์ สีน้ำตาลช็อกโกแลต รวมไปถึงสีแดงสว่างหรือแดงเข้ม มักใช้กับการทำสีโทนธรรมชาติ โดยจะทำสีเข้มที่ช่วงโคนไล่ไปยังสีสว่างช่วงปลายผม ผลลัพท์คือปลายผมดูนุ่ม และการที่คงความเข้มไว้รอบกรอบหน้าทำให้หน้าดูไม่ซีดเหมือนทำสีสว่างทั้งหัวด้วย สำหรับสาวๆผมดำธรรมชาติสไตล์เอเชียอย่างบ้านเรา ก็ย้อมสีเปลี่ยนปลายผมให้เป็นโทนน้ำตาลที่สว่างขึ้น หรือหากผมคุณทำสีอยู่แล้ว และอยากจะลองทำผมสไตล์ Ombre Hair ดูสักที ก็ให้เลือกเฉดที่สว่างขึ้นไม่เกิน 2 ระดับ (เดี๋ยวผมจะดูทูโทนเกินไป สีไม่ไล่กันสวย) ใครผมยาวจะยิ่งเหมาะมาก ยิ่งเป็น Ombre Hair กับผมดัด ยิ่งได้ผมที่สวยสะดุดตานักเชียว นอกจากนี้ด้วยสีที่โคนส่วนใหญ่จะเข้ม ดังนั้นไม่เติมสีที่โคนผมก็ไม่น่าเกลียดจ้า



สีผมแบบ Dip dyed ทำสีเปรี้ยวจี๊ดเฉพาะปลายผมก็เก๋ดี ง่ายๆ เลยคือเหมือนเอาผมไปจุ่มถังสี ขอบของสีจะตัดเป็นแนวนอนชัดเจน มักเล่นสีฉูดฉาดหรือสีพาสเทล ซึ่งส่วนใหญ่ต้องมีการฟอกผมด้วย ดังนั้น การดูแลสุขภาพผมสำคัญมาก ไม่งั้นนอกจากผมจะแห้งเสียแล้ว สียังหลุดเร็วอีกด้วยจ้า




เกี่ยวกับการทำสีผม

  • สรุปอีกครั้งว่า Balayage และ Ombre จะค่อนข้างดูเป็น natural look คือช่วยให้สีผมดูสวยแบบมีมิติอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ให้ลุกส์ที่ต่างกันที่เล่นไฮไลท์บางๆ ทั้งหัว หรือทำสีไล่โคนสู่ปลายสว่าง ส่วน Sectioning สามารถทำให้ดูเป็นธรรมชาติ หรือเปรี้ยวหลุดโลกก็ได้ แล้วแต่ช่างและลูกค้าจะจัดไป…สุดท้ายที่แซ่บกันทั่วบ้านทั่วเมืองตอนนี้ก็ Dip dyed ขอเรียกว่า 'จิ้มจุ่ม' ณ ที่นี้ก็แล้วกันจ้า 
  • สำหรับผมสั้นมากๆไม่ต้องน้อยใจไปที่ทำสีผม Ombre หรือ Dip dyed ไม่ได้ แต่สำหรับเทคนิค Balayage และ Sectioning นี่ยังจัดได้เต็มตามความสามารถช่างเลย

สุดท้ายนี้ ก็ขอแนะนำเพื่อนๆว่า หลังจากที่ได้ทำสีผมแล้ว สิ่งสำคัญเพื่อให้เรามีสีผมสวยๆเงางามตลอดไปก็คือ ผมทำสีต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ หลังจากที่เราสระผมแล้วควรใช้ครีมนวดหรือทรีทเมนต์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะเป็นประจำ และหมั่นดูแลเส้นผมด้วยการอบไอน้ำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดดจัด ควรสวมหมวกหรือทาออยล์หรือแฮร์โค้ทเคลือบบำรุงเส้นผมด้วย เพื่อป้องกันความร้อนจากรังสียูวีทำลายเส้นผมทำสี รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนจัดในการเป่าไดร์หรือจัดแต่งทรงผม และไม่หวีหรือแปรงผมขณะเส้นผมยังไม่แห้ง ยังไงอ่านจบแล้ว…ก็อย่าลืมลองนำไปทำดูนะค่ะ…เพื่อผมทำสีจะได้แข็งแรง มีสีสันสวยเงางามได้ยาวนานอยู่เสมอค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ: คุณ sushiboy69 จาก jeban
kapook.com
ขอขอบคุณภาพจาก: living.msn.com
weheartit.com
butterflystudiosalon.com